การประชุมชี้แจงรายละเอียดการรับทุนอุดหนุน จากมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.เพื่อเด็กและเยาวชนและพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างมูลนิธิกับภาคีต่างๆ

นายไสว สารีบท ศึกษาธิการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงรายละเอียดการรับทุนอุดหนุน จากมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.เพื่อเด็กและเยาวชนและพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างมูลนิธิกับภาคีต่างๆ ณ ห้องประชุมบุษราคัม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้ว เขต 2 อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 13.00-16.00 น.โดยมีนางทองม้วน หอมนิยม ประธานกรรมการบริหารโครงการพัฒนาเด็ก ซี.ซี.เอฟ.จังหวัดสระแก้ว เป็นผู้กล่าวรายงาน ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ
1) เพื่อชี้แจงรายละเอียดการรับทุนอุดหนุนจากมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.เพื่อเด็กและเยาวชน
2) เพื่อลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสำนักงานมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.เพื่อเด็กและเยาวชน กับ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
โดยมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนด้านการพัฒนาเด็ก เริ่มให้ความช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสโดยไม่จำกัดเพศ เชื้อชาติ ศาสนา มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 และจดทะเบียนเป็นมูลนิธิในปี 2518 ปัจจุบันให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษา สุขภาพ ทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ แก่เด็กด้อยโอกาสกว่า 58,000 คน ใน 37 จังหวัดทั่วประเทศ โครงการพัฒนาเด็ก ซี.ซี.เอฟ.จังหวัดสระแก้ว มีพื้นที่ดำเนินงาน 2 อำเภอ 5 ตำบล 34 หมู่บ้าน 24 โรงเรียน ในปีที่ผ่านมาได้จัดสรรงบประมาณ 10,810,657 บาทเป็นทุนการศึกษาสำหรับนักเรียน 1,643 คน และจัดโครงการอาหารเช้าเพื่อน้อง ใน 4 โรงเรียน โครงการฉลาดรู้เรื่องเพศ โครงการยุวเกษตร โครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมสำหรับเด็กและเยาวชน โครงการคลังอาหารในครัวเรือน โครงการเยาวชนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง โครงการพัฒนาเด็กปฐมวัย โครงการพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยาวชน สื่อและอุปกรณ์ส่งเสริมการศึกษา การปรับปรุงซ่อม/สร้างสถานที่อาคาร สนามเด็กเล่น ใน 24 โรงเรียนของจังหวัดสระแก้ว งบประมาณดังกล่าวมาจากเงินบริจาคของสาธารณชน ซึ่งมูลนิธิฯ ได้ทำการระดมทุนผ่าน “โครงการอุปการะเด็ก” ทั้งนี้ในการจัดกิจกรรมได้มีการชี้แจงรายละเอียดของการจัดสรรเงินทุนอุดหนุนจากการอุปการะเด็กให้แก่โรงเรียน 18 โรงในจังหวัดสระแก้ว เป็นเงินทุนสำหรับโครงการอาหารเช้าเพื่อน้อง 199,800 บาท และเงินทุนสำหรับโครงการฉลาดรู้เรื่องเพศ จำนวน 232,265 บาท โครงการยุวเกษตร จำนวน 179,720 บาท และกิจกรรมในชุมชน จำนวน 16,860 บาท จะมีเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสได้รับประโยชน์ 1,772 คน
เนื่องจากเงินทุนอุดหนุนดังกล่าวมาจากเงินบริจาคของสาธารณชน การใช้จ่ายเงินดังกล่าวจึงจำเป็นจะต้องมีกระบวนการที่โปร่งใสตรวจสอบได้กับจะต้องมีผลลัพธ์ตรงตามที่คาดหวังเพื่อนำกลับไปรายงานให้สาธารณชนรับทราบ มูลนิธิฯ จึงจัดให้มี “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ” ระหว่างมูลนิธิฯ กับภาคีที่รับทุน โดยมีพิธีลงนามใน “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ” จำนวน 3 ฉบับกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้ว เขต 1 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้ว เขต 2 และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 7 ในจังหวัดสระแก้ว

รุ่งตะวัน โรจนธรธราวัฒน์ รายงาน